วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สู่ความเป็นเซียน

สู่ความเป็นเซียน (๑)

วิศิษฐ์ วังวิญญู

yourservant007@yahoo.com


จากหนังสือ Mastery; The Keys to Success and Long-Term Fulfillment 

by George Leonard  เขาได้กล่าวไว้ว่า


“We fail to realize that mastery is not about perfection. It’s about a process, a journey. The master is the one who stays on the path day after day, year after year. The master is the one who is willing to try, and fail, and try again, for as long as he or she lives.” 


“เราล้มเหลวที่จะประจักษ์ว่า การเป็นเซียนไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นกระบวนการ เป็นการเดินทาง เซียนเป็นคน ๆ หนึ่ง ที่พยายามดำรงอยู่ในเส้นทาง วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เซียนคือ คน ๆ นั้นที่เต็มใจจะลอง จะล้ม และลองแล้วลองอีก ตราบใดที่เขาหรือเธอ ยังมีชีวิตอยู่”


ผมพบว่า งานกระบวนกร(วิทยากรกระบวนการ) ก็เป็นอะไรที่เรียกร้องต้องการ ให้กระบวนกรและผู้ฝึกเป็นกระบวนกร ขวนขวายที่จะดำเนินในเส้นทางของการก้าวสู่ความเป็นนาย นายงานของตัวเอง คืองานกิจกรรมการเรียนรู้ ในแนวทางของจิตวิวัฒน์ หรือ แนวทางการเรียนรู้ด้วยใจอันใคร่ครวญ จอช เลียวนาร์ด ได้เสนอแนวทางการฝึกฝนตัวเองเพื่อความเป็นเซียน ทีน้ีผมเห็นว่า เราจะเรียนจากเลียวนาร์ดได้ ผมจะลองเล่าบางประเด็นท่ีเขาสื่อดูนะครับ


เขาว่า มันมีอุปสรรค หรือหลุมพราง ที่ขัดขวางการพัฒนาไปสู่ความเป็นนาย หรือเป็นเซียน ในเรื่องใด ๆ ก็ตาม ที่เราปรารถนา เขากล่าวถึงอุปสรรคสามประการด้วยกัน


หนึ่ง ก็คือ การเข้าไปสัมผัสอะไรอย่างฉาบฉวย ทำนองชอปปิ้ง มากกว่า ที่จะจริงจังกับอะไร ตรุงปะ จะใช้คำว่า spiritual materialism หรือ วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ คือเราพากันเสพเร่ืองราวทางจิตวิญญาณ ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ เหมือนเป็นวัตถุ มากกว่า ที่จะเข้าไปดำรงอยู่ในประสบการณ์นั้น ๆ อย่างจริงจัง เหมือนชอปปิ้ง คนไปสำนักปฏิบัติธรรมมา ก็จะเอารูปมาอวดกัน เอาหนังสือมาอวดกัน ที่บ้านก็มีร่องรอยของอาจารย์คนโน้นคนนี้ เต็มไปหมด แต่ปราศจากซึี่งการปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง


สอง หลุมพรางก็คือคนประเภทต้องการผลได้แบบเร็ว ๆ แบบบะหมี่สำเร็จรูป พอทำอะไรสักพัก ไม่ได้ผลก็เลิกเลย สรุปเอาว่า ไม่ได้เรื่อง ขาดความอดทน ไม่เคยมีแม่แบบอยู่ในใจว่า ของดี ของวิเศษต้องใช้ความอดทน ต้องอยู่กับการเดินทาง อยู่กับกระบวนการ จึงจะได้สิ่งดี ๆ นั้นมา


สาม ประมาณว่า แค่นี้ก็ดีแล้ว จะเอาอะไรไปมากกว่านี้ คือ อาจจะผ่านการฝึกฝนมาระดับหนึ่ง แล้วมาติดเพดาน คือไปกว่านี้ยังไม่ได้ มันหยุดชะงัก มันไปได้แค่นี้เอง ทำเท่าไร มันก็ไม่ก้าวหน้าไปกว่านี้แล้ว ณ ขณะนั้น ๆ คือ ไปได้ในระดับพื้นฐานเท่านั้น อาจจะมีเหตุผลว่า ก็เราไม่ใช่นักกีฬานี่ จะเอาอะไรกันมากมาย เราไม่ใช่มืออาชีพนี่ แค่นี้พอแล้วล่ะ ครับพอแล้ว 


แต่เซียนหยุดตรงนั้นไม่ได้ เซียนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเพดาน แล้วก็ยังมีศรัทธาเชื่อมั่น ยังบุกบั่นพัฒนาตัวเองอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง วิธีที่จะทำอย่างนั้นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้งแม้ว่า จะไปเจอชานพักของบันได หลาย ๆ ชานพักข้างหน้า และบางทีมันก็เป็นชานพักของบันไดที่ยาวเอามาก ๆ ไม่รู้ว่า จะได้ไต่ระดับขึ้นไปอีกเมื่อไรกัน เขาหรือเธอก็จะไม่ยอมหยุดยั้งอยู่ จะทำเช่นนั้นได้ เขาต้องรัก “การเดินทาง” ละวางผลได้ไว้ก่อน ละวางเป้าหมายไว้ก่อน หากมีความสุขดื่มด่ำกับการเดินทาง ดื่มด่ำกับตัวกระบวนการ มากกว่า ที่จะหวังผลได้ หวังจะไปถึงเป้าหมาย อันอาจคล้ายทำว่า มรรคา หรือ ทางเดิน ในความหมายของเต๋า ที่แปลว่า “ทาง”


จอช เลียวนาร์ด นอกจากจะเป็นผู้อำนวยการของอีซาเลนแล้ว ยังฝึกฝนอาคิโด(ศิลปะต่อสู้ป้องกันตัวอย่างหนึี่ง)อย่างต่อเนื่อง เป็นเร่ืองเป็นราว สิ่งที่เขาเขียนมาจากสัมผัสจริง ประสบการณ์จริง ส่วนอีซาเลน ก็เป็นคล้ายอาศรมทางเลือกในอเมริกา ที่นี่ เป็นที่พบปะของนักคิดและคนทำงานกระบวนการทางกระบวนทัศน์ใหม่ หรือ เพื่อจิตวิวัฒน์หลาย ๆ คน 


เวลานี้ กระบวนการสุนทรียสนทนา กระบวนการที่ใช้แนวทางของจิตตปัญญาศึกษา ได้มีการนิยมนำไปปฏิบัติใช้กันอย่างแพร่หลาย มีการเรียนรู้ฝึกฝนปฏิบัติเพื่อจะได้เป็นกระบวนกรกันมากมาย ก็เกิดความห่วงใยว่า จะไปจับเฉพาะเนื้อหาทางความคิด ไปจับเฉพาะเนื้อหาทางองค์ความรู้ แต่ที่จริง ความรู้แขนงนี้ ต้องเป็นปัญญาปฏิบัติ ต้องเป็นศิลปะ ด้วยเท่านั้น ต้องเป็น “การเดินทาง” ที่เราต้องผ่านให้เป็นประสบการณ์ตรงของตัวเราเอง และเราอาจจะไปติดหล่มสามประการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ได้ หากเราไม่มีโอกาสได้ใคร่ครวญอย่างลุ่มลึก หากเรายังต้องการเพียงบะหมี่สำเร็จรูป หรือคิดว่า เรารู้แล้วเพียงแต่ทางพุทธิปัญญา(intellect) ทำอย่างไร เราจะช่วยกันและกัน ให้ไปพ้นหล่มหรือหลุมพรางต่าง ๆ ดังกล่าวมาได้